بسم الله الرحمن الرحيم
وبه نستعين
อัสสาลามมุอะลัยกุม .. สันติสุขจงมีแด่ท่านที่ได้รับทางนำทั้งหมาย
ก่อนที่ผมจะบันทึกประสบการณ์ชีวิตที่คิดว่าอาจจะมีที่เป็นบทเรียนแก่ตัวเองหรือแก่คนที่พบเห็นหรืออาจจะไม่มีแล้วแต่ท่านที่พบและมาอ่านบันทึกนี้ ผมขอแนะตัวเองก่อน
ผมมีชื่อตามสำเนาทะเบียนบ้านว่า นายอิบรอเฮม หะยีสาอิ ถ้าชือในภาษาอาหรับ ابراهيم مصفطفى حاج سعيد เป็นบุตรคนที่สี่ของโต๊ะครูที่ชื่อว่า หะยีมุสตอฟา อาวัง หะยีสาอิ หรือที่เป็นที่รู้จักในชื่อ "หะยีอาแว ตือเบาะ" เป็นโต๊ครูประจำปอเนาะและตำบลบาโงยซิแน อำเภอยะหา จังหวัดยะลา
เข้าใจว่าด้วยภาระงานของพ่อทำให้พ่อไม่ค่อยมีเวลายุ่งเกี่ยวกับระบบครอบครัวที่เกี่ยวข้องกับทางการเท่าไร เพราะงานของพ่อเป็นงานดะวะฮฺและบริการมุสลิมในฐานะโต๊ะครูและประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา เลยทำให้วันเดือนปีเกิดของผมที่มีอยู่สำเนาทะเบียนบ้านไม่ตรงกับความเป็นจริง
![]() |
หะยีมุสตอฟา อาวังหะยีสาอิ |
ผมเกิดที่บ้านของพ่อแม่ เขาเรียกว่าปอเนาะบาโงยซิแน ตรงกับบ้านเลขที่ 63 หมู่ที่ 3 ต.บาโงยซิแน อ.ยะหา จ.ยะลา ตอนผมเด็กๆ รอบๆบ้านยังมีปอเนาะที่เป็นที่พักของนักเรียนมาเรียนศาสนากับพ่อ มีทั้งปอเนาะคนโสด(เขาเรียกว่าปอเนาะลูวา : ลููวา แปลว่า นอก) และมีทั้งปอเนาะที่อยู่กันเป็นครอบครัว(เขาเรียกว่าปอเนาะดาแล : ดาแล แปลว่า ใน) พอโตขึ้้นปอเนาะลูวาค่อยๆหายไป เลือแต่ปอเนาะดาแล และอีกไม่กี่ปีเช่นกันปอเนาะดาแลก็ค่อยๆ หายไปเช่นกัน
![]() |
สภาพหน้าบ้านในอดีต(ประมาณ 50 ปีที่แล้ว) และสามคนเด็กปอเนาะ คนกลางเป็นพี่ชายคนโตของผม |
เมื่อจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 แล้ว ก็ต้องหาโรงเรียนที่จะศึกษาต่อในระดับมัธยมต่อไป ก่อนปิดภาคเรียน เพื่อนๆในชั้นหลายคนไปเรียนติวเพื่อสอบแข่งขันเข้าเรียนโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง แต่ผมไม่สนใจเพราะในใจมีอยู่่แล้วว่าจะไปเรียนที่โรงเรียนพัฒนาวิทยาซึ่งเป็นโรงเรียนอีกแห่งหนึ่งที่พ่อเป็นผู้ก่อตั้้ง ครูจะถามว่าไปเรียนที่นั้นทำไม ผมไม่ตอบเพราะไม่รู้จะตอบยังไง เพื่อนช่วยอธิบายให้ครูฟังซึ่งผมเองก็ไม่เข้าใจสิ่งที่เพื่อนอธิบาย พอเรียนจบผมได้อันดับที่สองในห้อง เห็นเพื่อนไปสมัครเรียนที่คณะราษฎรฯ ผมก็ไปสมัครกับเขาด้วย เพื่อนที่ไปติวสอบติดทุกคนได้อันดับท้ายๆ ผมก็สอบติดด้วยและอยู่ในอันดับที่ดีที่สุดของกลุ่ม ได้อยู่ห้องทับสองหรือที่เขาเรียกว่าห้องควีน(คงเป็นห้องเก่งรองจากทับหนึ่งมั้ง)
โรงเรียนคณะราษฎรบำรุงเป็นโรงเรียนนำร่องใช้หลักสูตรมัธยมแบบประสม แทนที่จะเรียนวันละ 5 ชั่วโมงเหมือนโรงเรียนอื่นๆ แต่เราเรียนวันละ 7 คาบ คาบละ 50 นาที มีวิชาการงานที่ชัดเจนด้วย ชั้น ม.ศ. 1 นักเรียนต้องเรียนวิชาการงานทุกงานที่เปิดสอน พอขึ้นชั้น ม.ศ. 2 ก็ต้องเลือกเรียน ซึ่งเป็นประสบการณ์ครั้งแรกในการลงทะเบียนเรียน ในสมัยนั้นไม่มีที่ไหนต้องลงทะเบียนเรียนนอกจากโรงเรียนแบบประสม จำได้ว่าผมเลือกเรียนภาษาอาหรับ ภาษาอังกฤษ ส่วนการงานนั้นผมไปสมัครช่วยงานตอนเลิกเรียน ทำงานที่โรงพิมพ์เลยทำให้ผมมีความรู้เกี่ยวกับการทำหนังสือจนถึงทุกวันนี้
เมื่อจบชั้น ม.ศ.3 ก็สมัครสอบแข่งขันเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ณ ที่เดิม ได้เข้าเรียนสายวิทย์-คณิต อยู่ห้องเรียนทับสองเหมือนมัธยมต้น แต่เมื่อหลักสูตรเปิดโอกาสให้จบตามหน่วยกิจที่กำหนด ทำให้เพื่อนบางคนขอจบภายในปีครึ่งและสามารถเรียนจบได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเรียนจบชั้นปีอย่างที่ทุกคนเขาทำกัน และจำได้ว่าเมื่อเราเขียนหนังสือถามกรมสามัญศึกษาว่าเราสามารถที่จะเรียนจบภายในปีครึ่งได้ไหม ท่านคุณหญิงอัมพร มีศุข อธิบดีกรมสามัญศึกษาในเวลานั้นเขาตอบว่า "เป้าหมายของการศึกษาตามหลักสูตรให้อยู่กับครูในโรงเรียน ไม่ใช่เพื่อเรียนให้จบเนื้อหาวิชาตามที่บันทึกไว้ในหลักสูตรอย่างเดียว"(ประมาณนี้) เลยทำให้เข้าใจระบบการศึกษาและยึดมั่นตามที่ท่านว่าจนถึงขณะนี้ และนำไปสู่จุดยืนที่ว่าวิชาอิสลามศึกษาถ้าจะสอนทางไกลต้องมีการอบรมอย่างเข้มข้น ไม่อย่างนั้นเราจะเจอคนที่เก่งเนื้อหาแต่ไม่รู้จักปฎิบัติ
เมื่อจบ ม.ศ.5 แล้ว ด้วยสภาพที่เอนทรานซ์ไม่ติดก็เว้นว่างไปหนึ่งปี ด้วยไปการไปเรียน AUA ที่กรุงเทพฯ แล้วสุดท้ายกลับมาเรียนที่วิทยาลัยครูยะลาเอกวิทยาศาสตร์ทั่วไป จำได้ว่าเรียนวิชาเคมีกับอาจารย์วิโรจน์ ปียวัชรพันธุ์(ภายหลังท่านได้เป็น รศ.และได้รับตำแหน่งอธิการบดีสถาบันราชภัฏยะลา)ท่านเป็นแบบอย่างคนหนึ่งที่ผมใช้สอนจนถึงทุกวันนี้ วิชาฟิสิกส์กับอาจารย์สุประดิษฐ์ ลิบรัตนสกุล(ภายหลังท่านได้เป็นอธิการบดีสถาบันราชภัฏภูเก็ต และเคยเจอท่านครั้งหนึ่งตอนที่ไปสัมมนาเรื่องโรคเอดส์ที่ภูเก็ต) เรียนวิชาชีวะกับอาจารย์สงวน(จำนามสกุลไม่ได้) แต่คนที่เปลี่ยนแปลงผมได้ดีที่สุดสมัยเรียนที่วิทยาลัยครูยะลาคืออาจารย์สุปราณี ปียวัชรพันธุ์ ภรรยาของท่านอาจารย์วิโรจน์ เป็นครูสอนภาษาไทย วิชาที่ท่านสอนและที่ผมเรียนจดจำวิธีการและนำไปใช้จนถึงทุกวันนี้ คือวิชา วาทศิลป์ สอนวิธีการพูด ท่านฝึกการพูดต่อหน้าชุมชน การวางลำดับเนื้อหาในการพูด จากคนที่พุดไทยไม่เป็นอย่างผมจนสามารถพูดต่อหน้าชุมชนได้ก็ได้ความรู้และการฝึกฝนจากท่าน
![]() |
บริเวณศูนย์กลางของมหาวิทยาลัย ว่างจากเวลาเรียนจะมานั่งจิบน้ำชาอยู่ภายใต้ต้นไม้ ที่เห็นอยู่ไกลๆ |
แรกเริ่มเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยริยาฏ ต้องเข้าเรียนภาษาอาหรับก่อน 2 ปี หลังจากนั้นเข้าเรียนต่อปีที่ 1 คณะศึกษาศาสตร์ เอกวิชาฟิกสิกส์ ซึ่งเกิดปัญหาทุลักทุเลพอสมควร เนื่องจากภาษาที่เราเรียนในชั้นเรียนเป็นภาษากลาง แต่ภาษาที่เรียนในคณะเป็นภาษาที่ใช้สำเนียงของแต่ละชาติขึ้นอยู่กับผู้สอน เช่น อาจารย์จากประเทสซีเรีย ก็จะพูดภาษาอาหรับสำเนียงซีเรีย หลายคำที่ผมไม่เข้าใจเลยว่าอาจารย์เขาว่าอะไร เปิดในพจนานุกรมก็ไม่มี
เรียนที่มหาวิทยาลัยริยาด(Riyadh University)ที่ตั้งอยู่ในตัวเมือง ประมาณ 3 ปี(รวมทั้งเรียนภาษา) ก็เปลี่ยนไปเรียน ณ ที่แห่งใหม่ที่ใหญ่โตมากและเปลียนชื่อเป็นมหาวิทยาลัยคิงซะอูด(King Saud University)
เนื่องจากเป็นคนต่างประเทศ ภาษาอาหรับไม่แข็งแรง เวลาลงทะเบียนเรียน อาจารย์ที่ปรึกษาไม่อนุญาตให้ลงทะเบียนมากกว่า 15 หน่วยกิต เลยทำให้เรียนจบช้ากว่าปกติ ทำให้ผมได้อยู่ที่ซาอุฯนาน เก็บประสบการณ์และเรียนรู้สิ่งอื่นที่นอกเหนือจากเนื้อหาในหลักสุตรทีต้องเรียนได้มากมาย และความรู้ที่ผมเก็บสะสมกับการนั่งอยู่ในห้องสมุดประจำเกือบทุกวันหลังละหมาดอัศริจนถึงมุฆริบ คือ ความรู้เรื่องศาสนา เช่น ศึกษาความหมายอัลกุรอาน ศึกษาหลักศาสนบัญญัติในความเห็นต่างๆ ส่วนเรื่องทุนค่าเล่าเรียนนั้นไม่มีปัญหา เพราะรัฐบาลซาอุฯเขาจะให้ทุกเดือน เดือนละ 1000 ริยาล ประมาณ 7000 บาทในขณะนั้น
ระหว่างที่กำลังเรียนนั้นได้เจอประสบการณ์หลากหลาย แต่ก็คิดว่าไปแปลกประหลาดเท่าไร เพียงแต่บางอย่างทำให้เราได้พบกับความจริง และสิ่งหนึ่งที่เจอแล้วจำจนคิดเป็นแบบอย่างและจะนำมาใช้ในกาทำงานแต่ก็ไม่สามาถทำได้ .. ตอนอยู่ปี 1 อาจารย์คนหนึ่งพึ่งจบจากสหรัฐอเมริกาใหม่ๆ ชือ่ ดร.อะหฺมัด อาลี อัลหะรกาน เขาสอนวิชา Physics I วันแรกที่เขาเข้ามาเขาก็จะแนะนำตัวและเล่าประวัตตัวเองประมาณว่า เขาเป็นศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยนี้ ได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ไปศึกษาต่อ ป.โท ที่สหรัฐอเมริกาและทางมหาวิทยาลัยที่เขาจะเรียนให้เขาไปเข้าเรียนในชั้นปีที่ 4 ก่อน แต่เขาไม่ยอม เพราะเขาถือว่าเขาจบจากมหาวิทยาลัยมาตรฐานระดับโลกแล้วทำไมต้องเลื่อนชั้นเขา เขาจึงเรียนระดับ ป.โท โดยลงทะเบียนเพียงแค่วิชาเดียว แต่ผลการเรียนออกไม่ได้ B+ เขาบอกว่าเป็นไปได้ไง เขาเรียนวิชาเดียวได้เพียงแค่นี้ จึงไปขอจากมหาวิทยาลัย ขอเรียนชั้นปีที่ 3 ใหม่ .. เขาว่าถ้าเขาไม่ทำแบบนั้น เขาคงไม่มีดอกเตอร์อย่างทุกวั้นนี้ ..
ในการเรียนการสอนที่ดอกเตอร์ใช้สอนนั้น หลักจากแนะนำตัวแล้ว ท่านนำเสนอหนังสือประกอบการสอน และท่านให้พวกเราไปทำแบบฝึกหัดท้ายบท และบอกว่าเจอกันอาทิตย์หน้าเราจะมีอภิปรายกัน .. ผมก็เลยไปทำแบบฝึกหัดตามที่ท่านสั่ง แต่กว่าจะทำได้ทุกข้อตามคำสั่งนัั้นผมต้องอ่านหนังสือในบทนั้นเป็นสิบเล่ม .. จึงได้คำตอบว่า "การเรียนรู้เป็นแบบนี้เอง ยิ่งอ่านเยอะยิ่งได้ความรู้เยอะ สามารถที่จะแก้ปัญหาตามโจทย์ได้ง่ายยิ่งขึ้น" พอถึงเวลาที่นัดหมาย ดอกเตอร์ท่านก็จะถามว่า ใครมีปัญหาตรงไหนในการทำแบบฝึกหัด ผมก็บอกท่านถึงปัญหาที่ผมเจอ ท่านก็ได้อธิบายถึงความเป็นมาเป็นไป อธิบายทฤษฎีที่จะใช้ในการแก้ปัญหา แนวทางแก้ปัญหา .. สรุปว่า "ท่านกำลังสอนพวกเรา โดยใช้ปัญหาในการสอน" ตกลงว่า ผมได้ความรู้ในบทนั้นเยอะมาก .. แต่คืนอื่นไม่มีใครทำ สุดท้ายท่านก็สอนแบบ บรรยาย บรรยายและบรรยาย
ในการเรียนการสอนที่ดอกเตอร์ใช้สอนนั้น หลักจากแนะนำตัวแล้ว ท่านนำเสนอหนังสือประกอบการสอน และท่านให้พวกเราไปทำแบบฝึกหัดท้ายบท และบอกว่าเจอกันอาทิตย์หน้าเราจะมีอภิปรายกัน .. ผมก็เลยไปทำแบบฝึกหัดตามที่ท่านสั่ง แต่กว่าจะทำได้ทุกข้อตามคำสั่งนัั้นผมต้องอ่านหนังสือในบทนั้นเป็นสิบเล่ม .. จึงได้คำตอบว่า "การเรียนรู้เป็นแบบนี้เอง ยิ่งอ่านเยอะยิ่งได้ความรู้เยอะ สามารถที่จะแก้ปัญหาตามโจทย์ได้ง่ายยิ่งขึ้น" พอถึงเวลาที่นัดหมาย ดอกเตอร์ท่านก็จะถามว่า ใครมีปัญหาตรงไหนในการทำแบบฝึกหัด ผมก็บอกท่านถึงปัญหาที่ผมเจอ ท่านก็ได้อธิบายถึงความเป็นมาเป็นไป อธิบายทฤษฎีที่จะใช้ในการแก้ปัญหา แนวทางแก้ปัญหา .. สรุปว่า "ท่านกำลังสอนพวกเรา โดยใช้ปัญหาในการสอน" ตกลงว่า ผมได้ความรู้ในบทนั้นเยอะมาก .. แต่คืนอื่นไม่มีใครทำ สุดท้ายท่านก็สอนแบบ บรรยาย บรรยายและบรรยาย
![]() |
โรงเรียนสุขสวัสดิ์วิทยา ต.บาโงยซิแน อ.ยะหา จ.ยะลา |
วิทยาลัยอิสลามยะลา ต.บุดี อ.เมือง จ.ยะลา |
ด้วยขีดจำกัดของผู้ที่จะมาเป็นอาจารย์ที่มีความรู้สองด้าน(ศาสนาและสามัญ) เลยเป็นจุดกระตุ้นให้ผมได้เรียนต่อระดับปริญญาโท เลือกสาขาวิชาที่สนใจตั้งแต่เรียนอยู่ ณ ต่างประเทศ สาขาวิชาจิตวิทยาการศึกษา ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และจบมาเป็นอาจารย์สอนระดับอุดมศึกษาอย่างสมบูรณ์เมื่อปี พศ.2546
ระหว่างที่กำลังเรียนจิตวิทยาอยู่นั้น บางวันเมื่ออาจารย์อธิบายถึงทฤษฎีจิตวิทยาก็รู้สึกว่าอันนี้ แบบนี้เราเคยผ่านมาแล้ว บางครั้งอ่านอัลกุรอานตอนเช้าพอตอนสายกลับพบอาจารย์มาอธิบายความกระจ่างอายาตที่ได้อ่านมาตอนเช้า สรุปว่า ทฤษฎีทางจิตวิทยาจริงๆแล้วมีมานานแล้ว อััลกุรอานได้กล่าวถึงมานานแล้ว เพียงแต่เราไม่เคยศึกษาอัลกุรอานในมุมมองที่เป็นความรู้ทั่วไปที่นอกจากความรู้ด้านอิบาดะฮฺ
เมื่อวิทยาลัยอิสลามยะลา(ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นมหาวิทยาลัยอิสลามยะลาแล้วเปลี่ยนชื่อเป็นมหาวิทยาลัยฟาตอนี)เปิดคณะวิทยาศาสตร์ ทางมหาวิทยาลั้ยได้แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งเป็นรองคณบดีคณะวิทยาศาสตร์ ในฐานะที่จบ ป.ตรี วิทยาศาสตร์และมีความรู้ในเรื่องวิทยาศาสตร์ในมุมอิสลาม ซึ่งเป็นเป้าหมายหนึ่งของการจัดตั้งคณะวิทยาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยอิสลามยะลา และด้วยการที่ต้องมารับผิดชอบในคณะนี้ทำให้ผมได้เขียนหนังสือสำหรับเยาวชนขึ้นมา 3 เล่ม ในชื่อ "วิทยาศาสตร์อิสลาม"
ในช่วงปี 2556 เป็นต้นมาได้ออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานเสือภูเขา และเมื่อต้นปี 2552 ได้ประสบอุบัติเหตุถูกรถชน ทำให้ต้องนอนโรงพยาบาลนานถึง 44 วันและต้องหยุดงานนาน 8 เดือน พอกลัมมาทำงานอีกครั้ง มหาวิทยาลัยเลื่อนให้ไปเป็น ผอ.สำนักวิทยบริการ รับผิดชอบงานห้องสมุดและศูนย์คอมพิวเตอร์ จนถึงทุกวันนี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น